เมนูนำทาง
โชอิจิ โยโกอิ สงครามโลกครั้งที่สองและการใช้ชีวิตหลังสงครามยุติหลังจากที่โยโกอิถูกเกณฑ์เข้าสู่กองทัพ เดิมเขารับราชการอยู่ในกองพลทหารราบที่ 29 ในแมนจูกัว ใน ค.ศ. 1943 เขาได้ถูกย้ายไปประจำในกรมทหารที่ 38 ในหมู่เกาะมาเรียนา เขามาถึงเกาะกวม ในเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อกองทัพอเมริกันมีชัยเหนือทหารญี่ปุ่นใน ค.ศ. 1944 โยโกอิได้ไปหลบซ่อนตัวกับทหารญี่ปุ่นอีกสิบนาย เขายังคงซ่อนตัวอยู่จนกระทั่ง ค.ศ. 1972[1] ทหารที่หลบซ่อนตัวอยู่เจ็ดจากสิบนายได้ผละออกไปแล้ว เหลือเพียงสามคนที่ยังซ่อนตัวอยู่เท่านั้น ในภายหลัง ทหารทั้งสามได้แยกกันอยู่ แต่ยังคงพบปะกันจนกระทั่ง ค.ศ. 1964 เมื่อโยโกอิพบว่าเพื่อนของเขาทั้งสองคนได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยการขาดอาหาร แปดปีสุดท้ายเขาต้องอาศัยอยู่เพียงลำพัง
โยโกอิเอาชีวิตรอดด้วยการล่าสัตว์ โดยส่วนใหญ่ในเวลากลางคืน เขาได้ใช้พืชท้องถิ่นในการทำเสื้อผ้า เตียง และเครื่องมือเก็บของ ซึ่งถูกซ่อนไว้อย่างระมัดระวังในถ้ำ เป็นเวลากว่า 28 ปี เขาได้ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำใต้ดินในป่า[1] โดยหวาดกลัวที่จะออกมาจากที่ซ่อนแม้ว่าหลังจากพบใบปลิวที่มีเนื้อหาระบุว่าสงครามโลกครั้งที่สองยุติลงแล้ว[1]
เมนูนำทาง
โชอิจิ โยโกอิ สงครามโลกครั้งที่สองและการใช้ชีวิตหลังสงครามยุติใกล้เคียง
โชอิจิโร โทโยดะ โชอิจิ โยโกอิ โชอิจิ ฟูนากิ โชนิจิ โออิจิ โซอิจิโร โฮชิ โจอิจิโร ทัตสึโยชิ โคอิจิ ซูงิยามะ (คีตกวี) โคอิจิ ยามาเดระ โยอิจิ คาโตแหล่งที่มา
WikiPedia: โชอิจิ โยโกอิ http://www.cnn.com/WORLD/9709/23/japan.straggler/i... http://books.google.com/books?id=g6nQjEr84uMC&dq=S... http://books.google.com/books?id=g6nQjEr84uMC&pg=P... http://query.nytimes.com/gst/fullpage.html?res=950... http://ns.gov.gu/scrollapplet/sergeant.html http://www.worldcat.org/oclc/316801727